Categories
งาน

5 ข้อปฏิบัติในการทำงานกับบริษัทญี่ปุ่น

ฉันเกิดและเติบโตในประเทศญี่ปุ่น จากนั้นจึงย้ายไปศึกษาต่อระดับมหาวิทยาลัยที่ Southern California ก่อนกลับมายังโตเกียว และทำงานพาร์ทไทม์กับบริษัทญี่ปุ่นหลายแห่ง ฉันจึงไม่ค่อยเข้าในนักว่าการทำงานแบบญี่ปุ่นจริงๆแล้วเป็นอย่างไร แต่อย่างไรก็ตาม พ่อของฉันนั้นเป็นพนักงานเงินเดือนชาวญี่ปุ่นโดยแท้จริง ฉันเองรู้สึกขอบคุณที่ท่านทำงานหนักเพื่อครอบครัวเราเสมอ
บทความนี้คือข้อดี และข้อเสียของการทำงานในบริษัทสัญชาติญี่ปุ่น ที่ฉันรู้สึก เมื่อเปรียบเทียบกับการทำงานในบริษัทสัญชาติอเมริกา
ทำงานหนัก
ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่ใดในญี่ปุ่น คุณถูกคาดหวังให้แสดงศักยภาพ ด้วยการทำงานหนักเป็นเวลาหลายชั่วโมงต่อวัน ชาวญี่ปุ่นให้ความสำคัญกับคนที่ทำงานหนัก หากคุณอยากได้รับการเลื่อนตำแหน่ง คุณต้องมาทำงานก่อนเวลาอย่างน้อย 15 นาที และก่อนเลิกงานคุณควรไถ่ถามเพื่อนร่วมงาน หากพวกเขาต้องการความช่วยเหลือเสมอ
ตอนที่ฉันทำงานพาร์ทไทม์เป็นพนักงานเสริฟในร้านอาหารนั้น หัวหน้าพนักงานเสริฟตักเตือนเมื่อฉันเข้างาน และเลิกงานตรงเวลา ตอนนั้นเธอบอกฉันว่า ฉันควรถามเพื่อนร่วมงาน หากพวกเขาต้องการความช่วยเหลือ และฉันก็ควรจะอยู่ช่วยงานนั้น ความร่วมมือร่วมใจ และทำงานเป็นทีมเป็นสิ่งสำคัญในองค์กรญี่ปุ่น
นี่เป็นเรื่องจริงสำหรับพนักงานเงินเดือน เพราะพวกเขาต้องทำงานไม่ต่ำกว่า16 ชั่วโมงต่อวัน หรืออาจมากกว่านั้นโดยไม่ได้รับค่าจ้าง สำหรับในอเมริกานั้น มีบ้างที่เราต้องทำงานล่วงเวลา แต่ไม่มากเท่าที่คนญี่ปุ่นต้องทำ
สังสรรค์หลังเลิกงาน (Nomikai)

สามีของพี่สาวของฉันเป็นพนักงานขายของบริษัทเครื่องมือการแพทย์ในญี่ปุ่น และแม้ว่าเขาจะทำงานหนักในช่วงเวลางานแล้ว เขาก็ต้องพาลูกค้าไปเลี้ยงสังสรรค์หลังเลิกงาน (หรือที่เรียกว่า settai ) ด้วย และนี่ก็ถือเป็นส่วนหนึ่งในหน้าที่ความรับผิดชอบสำหรับพนักงานเงินเดือนด้วย ที่พ่อของฉันมักจะไม่ค่อยมีเวลา สาเหตุส่วนหนึ่งก็มาจากการเลี้ยงสังสรรค์นี่เอง แต่นอกจากนั้นท่านก็ต้องเข้าร่วมงานกีฬาที่บริษัทเป็นผู้สนับสนุน ซึ่งโดยมากแล้วทำให้ท่านไม่ค่อยได้ใช้เวลาที่บ้านในวันหยุดมากนัก
การวางผังออฟฟิศแบบเปิด
สิ่งหนึ่งที่น่าสนใจในออฟฟิศชาวญี่ปุ่นคือ พนักงานต้องใช้พื้นที่ทำงานร่วมกัน ฉันบอกได้เลยว่าฉันชอบการวางผังพื้นที่ทำงานแบบอเมริกันมากกว่า ที่พนักงานจะมีพื้นที่ส่วนตัวในการทำงาน แต่สำหรับประเทศเล็กๆอย่างญี่ปุ่นนั้น หากคุณไม่ได้อยู่ในตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงแล้ว คุณจะไม่มีห้องทำงานส่วนตัว แต่จะต้องทำงานในพื้นที่ที่ใช้ร่วมกัน
การประชุมที่ยาวนาน และไม่มีประสิทธิภาพ
เพื่อนชาวอเมริกันของฉันคนหนึ่ง ที่ทำงานในบริษัทญี่ปุ่น บอกกับฉันว่า เธอประหลาดใจกับการประชุมของหัวหน้างานและผู้ร่วมงานของเธอเหลือเกิน เธอบอกว่าการประชุมนั้นเป็นไปอย่างไม่มีประสิทธิภาพ และใช้เวลายาวนานมากที่จะต้องหามติเพื่อสรุปการประชุม เพราะสำหรับการบริหารงานแบบญี่ปุ่นนั้น การแสดงความคิดเห็นนั้นสำคัญยิ่งกว่าการบรรลุข้อสรุปเสียอีก
แต่หากเราเข้าร่วมการประชุมในบริษัทแบบอเมริกาแล้วนั้น เราจะพบว่าการประชุมจะมีลำดับ และข้อถกเถียงที่ชัดเจน เพราะเราพยายามจะใช้เวลาให้น้อยที่สุด และหัวหน้างานจะเป็นผู้ตัดสินใจสรุปข้อปัญหาต่างๆ เพื่อนร่วมงานของฉันนั้นยึดลำดับการประชุมตามที่ชัดเจนมาก เพราะเวลานั้นเป็นเงินเป็นทอง เราจึงต้องการข้อสรุปให้เร็วที่สุด
ออกกำลังกายตอนเช้า
ตอนที่ฉันเรียนอยู่ในชั้นประถมนั้น ฉันต้องทำกายบริหารกลางสนามหญ้าในทุกๆเช้า แต่ฉันกลับมองว่าการออกกำลังกายในตอนเช้าก่อนเริ่มทำงานนั้นดูประหลาดเหลือเกิน ชาวญี่ปุ่นเชื่อว่าการทำกายบริหารจะช่วยเพิ่มศักยภาพการทำงานให้แก่พนักงานได้ Yoshi เพื่อนชาวญี่ปุ่นของฉันที่ทำงานในบริษัท Toshiba บอกฉันว่าเขาต้องทำกายบริหารต่อหน้าหัวหน้างานทุกเช้า มันช่วยเตรียมพร้อมร่างกายก่อนการทำงาน แต่เขาก็รู้สึกว่าตัวเองต้องกลับไปเป็นเด็กประถมอีกครั้ง
บทสรุป
การทำงานในบริษัทญี่ปุ่นมีทั้งข้อดี และข้อเสีย ทำให้มองเห็นถึงความแตกต่างระหว่างวัฒนธรรมญี่ปุ่น และอเมริกาอย่างชัดเจน ฉันไม่ได้บอกว่าบริษัทอเมริกันนั้นดีกว่า เพราะมันขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย และความคิดเห็นส่วนบุคคลด้วย
คุณคงไม่พบกับปัญหาอะไรหากคุณเกิด และโตในญี่ปุ่น คุณก็คงคุ้นเคยกับวัฒนธรรม และบริษัทญี่ปุ่น เพราะในหลายปีที่ผ่านมานี้ หลายบริษัทเองก็เปลี่ยนแปลงไปมากในการปรับปรุงสวัสดิการ แผนรองรับสำหรับวัยเกษียณอายุ และความก้าวหน้าในสายอาชีพ